เมนู

อรรถกถาพันธนสูตรที่ 5



พึงทราบวินิจฉัยในพันธนสูตรที่ 5 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อตีรทฺสสี ความว่า วัฏฏะ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสเรียกว่า ฝั่ง (ใน) ปุถุชนมองไม่เห็นฝั่งนั้น.
บทว่า อปารทสฺสี ความว่า นิพพาน พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสเรียกว่า ฝั่ง (นอก) ปุถุชนมองไม่เห็นฝั่งนั้น.
บทว่า พนฺโธ ความว่า (ปุถุชน) เป็นผู้ถูกผูกด้วยกิเลส จึง
เกิด แก่ ตาย และจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่น.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสวัฏฏทุกข์ไว้ในสูตรนี้แล.
จบ อรรถกถาพันธนสูตรที่ 5

6. ปริมุจจิตสูตรที่ 1



ว่าด้วยการพิจารณาเห็นขันธ์ 5 เพื่อความหลุดพ้น



[306] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย
จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ? เธอทั้งหลายย่อมพิจารณาเห็นรูป
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็น
อัตตาของเรา ดังนี้หรือ ?
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า หามิได้พระเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดีละ ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึง
พิจารณาเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ
ตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นมิใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่

เป็นอัตตาของเรา ดังนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อวิยสาวกผู้ได้สดับแล้ว
เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ รู้ชัดว่า ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ ปริมุจจิตสูตรที่ 1

อรรถกถาปริมุจจิตสูตรที่ 1



ถึง อุปาทานสูตรที่ 9



สูตรทั้งหลาย มีปริมุจจิตสูตรที่ 1 เป็นต้น ง่ายทั้งนั้น.
จบ อรรถกถาปริมุจจิตสูตรที่ 1 เป็นต้น

7. ปริมุจจิตสูตรที่ 2



ว่าด้วยการพิจารณาเห็นขันธ์ 5 เพื่อความหลุดพ้น



[307] กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย
จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เธอทั้งหลายพิจารณาเห็นรูป เวทนา
สัญญา สังขาร วิญญาณ
ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่
อัตตาของเรา ดังนี้หรือ ?
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า อย่างนั้น พระเจ้าข้า พระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสว่า ดีละภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงพิจารณาเห็น
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้น ด้วยปัญญาอันชอบตามความ
เป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตา
ของเรา ดังนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้
ฯลฯ รู้ชัดว่า ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี.
จบ ปริมุจจิตสูตรที่ 2